1. เลือกกิ่งที่จะทำเป็นกิ่งหลักหรืออาจจะใช้ลวดดัดให้กิ่งที่เลือกขนานกับพื้นหรือให้ปลายชี้ขึ้นเล็กน้อย แล้วเลี้ยงกิ่งให้ใหญ่ ดังรูป
2.เมื่อกิ่งที่เลือกไว้มีขนาดโตประมาณ 1 ใน 4 ของลำต้น ก็ให้ตัดกิ่งดังกล่าวไว้พอสมควรโดยการตัดไม้นั้นให้ตัดเหนือตาไม้ อาจจะตัดไว้เพียง 2 หรือ 3 ข้อ ( ข้อ คือ ระยะหางระหว่างตาไม้หนึ่งไปถึงอีกตาไม้หนึ่ง ) ดังรูป
3.เมื่อตัดกิ่งตามข้อ 2 แล้ว เลี้ยงมาสักระยะหนึ่งก็จะมีกิ่งเริ่มแตกแขนงมาบริเวณตาไม้ ให้เลือกไว้ 2 ถึง 3 กิ่ง โดยกิ่งที่แตกออกมาปลายสุดให้ดัดไปทางเดียวกับกิ่งที่เราตัดให้คดงอสลับไปมาซ้ายขวา ส่วนอีก 1 หรือ 2 กิ่ง ดัดให้เฉียงออกมาด้านหน้าหรือหลังแล้วแต่ตำแหน่งของแขนงที่แตกออกมานั้นซึ่งเกือบจะตั้งฉากกับกิ่งหลัก ดังรูป
4.เมื่อกิ่งแขนงตาม ข้อ 3 ได้ขนาดพอสมควรประมาณ 1 ใน 4 หรือ 1 ใน 3 ของกิ่งหลักเดิม ก็ให้ตัดเหลือไว้ 2 หรือ 3 ข้อ แล้วทำตามข้อ 3 และ 4 ไป เลื่อย ๆ จนกว่าปลายแขนงของกิ่งจะเล็ก ดังรูป
5.จากการเลี้ยงตามข้อ 1 ถึง ข้อ 4 โคนกิ่งจะมีลักษณะใหญ่แล้วกิ่งจะค่อย ๆ เรียวและเล็กลงจนถึงปลายและแขนงของกิ่งก็เช่นเดียวกัน การดัดกิ่งนั้นควรดัดให้บริเวณห่างจากโคนกิ่งเล็กน้อย มีลักษณะโดยรวมด้านบนของกิ่งหลักมีรายละเอียดลักษณะเป็นพุ่มใหญ่และสูงกว่าปลายกิ่งและพุ่มค่อย ๆ เล็กลง เมื่อมองจากด้านข้างจะมีลักษณะเกือบเหมืนสามเหลี่ยมด้านไม่เท่า ดังรูป
6.การดัดต้องดัดให้รายละเอียดและแขนงของกิ่งกระจายรายละเอียดออกทั้ง 2 ด้านของกิ่งเมื่อมองจากด้านข้างจะมีลักษณะเป็นครึ่งวงรี ดังรูป
7.เมื่อเลี้ยงรายละเอียดทุกกิ่งดังข้อ 1 - 6 แล้วต้นไม้ทั้งต้นก็จะมีลักษณะการกระจายออกของกิ่งและแขนงของกิ่งออกไปรอบต้น โดยกิ่งที่ ฐานซึ่งมีตำแหน่งตำ่สุดหรือเรียกว่ากิ่ง 1 จะยาวและใหญ่อีกทั้งมีรายละเอียดกระจายมากกว่ากิ่งอื่นซึ่งกิ่งบนขึ้นไปจะค่อย ๆ เล็กลงและรายละเอียดของกิ่งและแขนงค่อยๆ สั้นลง ดังรูป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น