วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

บอนไซ ไม้งามของคนสุพรรณฯ

ในยุคนี้แต่ละคนก็มีวิธีผ่อนคลายให้กับตัวเองตามงานที่ชอบตามงานที่ถนัดแตกต่างกันไป บางคนก็เล่นดนตรี อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง หรือนอน แล้วแต่ใครจะชอบ เป็นการสร้างความสุขให้แก่เราได้มากน้อยเพียงไร แต่ใครบ้างจะทำให้งานที่เป็นงานอดิเรกสร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำ แถมมีความสุขกับงานชนิดอย่างที่ทิ้งไม่ลง วางมือไม่ลงทีเดียว เพราะเมื่อใดที่เข้ามามองต้นไม้ต้องมองให้ลึก มองให้รู้ว่าอนาคตไม้ควรเป็นเช่นไร อย่างไร วางอนาคตให้ลูกน้อยก่อน ไม่ใช่วางอนาคตให้ต้นไม้เพื่อความสวยสดงดงามตามจินตนาการตามแบบแผนที่เราควรจะสร้าง แล้วแต่ต้นไม้ ดูแบบต้นไม้ใหญ่เป็นหลักเพื่อการสร้างต้นไม้ได้มีแบบมีแผน การวางกิ่ง ตำแหน่งกิ่งต่างๆ จะได้เป็นไปอย่างลงตัวแบบเขียนแบบแปลนบ้าน



เมื่อมาเยือนสุพรรณบุรี

เดินทางไปตามถนนสายสุพรรณบุรี-ดอนเจดีย์ ขับตรงไปเรื่อยๆ เห็นสะพานปูนข้ามคลองส่งน้ำเล็กๆ บนถนนดังกล่าว เมื่อมองเห็นป้ายว่าทางเข้าวัดจิกรากข่า มองฝั่งตรงกันกับทางเข้าวัด ข้ามใกล้กับจุดกลับรถพอดิบพอดี คล้ายสร้างเอาไว้ให้แ***เวียนที่บ้านนี้หลังนี้ มองเข้าไปเห็นต้นไม้พิลึกกว่าบ้านอื่นๆ คดไปโค้งมา มีหนุ่มใหญ่คอยถือสายยางสีเขียวเส้นโตหรือนั่งก้มๆ เงยๆ ก็เขาล่ะ คุณเสถียร วงศ์วิรัตน์ หนุ่มใหญ่วัย 55 ปี บ้านเลขที่ 309 หมู่ 2 ตำบลไร่รถ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

หนุ่มใหญ่ที่นักเลงบอนไซในละแวกนี้เขาเรียกอาจารย์บอนไซเลยทีเดียว เพราะถือว่าเป็นหนุ่มใหญ่ที่มีประสบการณ์มากมายคร่ำหวอดอยู่ในวงการบอนไซมาหลายสิบปีเห็นจะได้ หนุ่มใหญ่อัธยาศัยดี มนุษยสัมพันธ์ดีแบบไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่ในคนสมัยนี้ยุคนี้ พาทีมงานดูรอบๆ บ้านบนพื้นที่กว่า 2 ไร่ ที่มีต้นไม้เล็กใหญ่ สูงบ้างต่ำบ้าง แต่เป็นต้นไม้ที่ไม่แปลกตา เป็นต้นไม้พื้นบ้านที่เราๆ ก็รู้จัก อย่างเช่น ต้นโพธิ์ ต้นไทร ข่อย ตะโก มะสัง

เรียกว่าเดินไปบ่นไปว่าปลูกทำไม ปลูกทำอะไร ทำไมปลูกมากขนาดนี้ แล้วจะเอาไปขายหรือจำหน่ายที่ไหน แล้วคนที่ซื้อเขาจะเอาไปทำอะไร นี่เป็นคำถามในใจ ใครจะกล้าถาม ประเดี๋ยวจะเจ็บตัวเสียเปล่าๆ ผู้ที่ไม่รู้คุณค่าของต้นไม้ว่าต้นไม้ธรรมดาจะมีราคาค่างวดอะไร แต่เมื่อใดนำต้นไม้ธรรมดาไร้ค่าเหล่านี้มาจัดสรรให้ลงตัวตามกระบวนการก็สามารถมีราคาขึ้นมาอย่างแทบไม่น่าเชื่อ

แต่เท่าที่เราสังเกตดูคือ ต้นไม้ทุกต้นจะมีโคนใหญ่และคล้ายมีการจัดเรียงรากต้นไม้ทั้งหมดทุกต้นเป็นระเบียบเสมือนรากของต้นไม้ใหญ่

คุณเสถียร บอกว่า ตนเรียนไม่สูง เนื่องจากสมัยก่อนมีสถานศึกษาน้อย ไกล และครอบครัวก็ไม่มีฐานะที่ดีมาก ครอบครัวเป็นเพียงเกษตรกรทำนาทำไร่ตามประสา ตนเองชอบบรรยากาศของท่วงทำนองเพลง กระบวนการขั้นตอนลักษณะการจัดวางตัวโน้ต ในลักษณะต่างๆ ถือว่าหลงใหลเลยทีเดียว จึงพยายามศึกษาจนประสบผลสำเร็จ มีอาชีพหลักเป็นศิลปิน นักแต่งเพลง เป็นนักร้อง และมีวงดนตรีรับจ้างตามงานต่างๆ เป็นวงดนตรีเล็กๆ แต่เป็นวงที่ใหญ่ในหัวใจเขามานาน และใช้ชื่อว่า ศิลปินอาชาที่ชาวบ้านอาจคุ้นหูบ้าง

ในอดีตยังเคยแต่งเพลงจนฮิตติดปาก คือเทปเพลงชุด "ยาม้า" ที่เนื้อร้องท่อนหนึ่งสามารถสื่อความหมายถึงยาม้า หรือยาบ้าว่า เติบโตมาด้วยข้าวปลา แต่แปลกหนักหนาไปกินยาม้าทำไม มันอิ่มเหมือนข้าวหรือไง ไปเสพม้าทำไม และเพลง "ชีวิตไอ้ธรรม" ในยามว่างยังจัดรายการวิทยุท้องถิ่นให้ผู้คนได้รับฟังรับทราบข้อมูลข่าวสารอยู่เป็นประจำทุกวัน เนื่องมาจากใจรักจากหน้าที่การงานที่มากมายหลายอย่าง แต่ก็สนุกกับงานที่หมดไปวันๆ กับงานต่างๆ จนกระทั่งเย็น เพราะเป็นอาชีพที่รักที่ชอบ ทำอย่างนี้มานานจนเรียกได้ว่าเป็นกิจวัตรประจำวัน

"จริงไหม ผมเชื่อของผมอย่างนั้น เพราะถือว่าการพักผ่อนที่ดีที่สุดคือการอยู่กับสิ่งที่รัก ของที่รัก งานที่รัก สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นยาวิเศษที่สามารถบำบัดผู้ป่วยจากความเครียดได้เป็นอย่างดี ธรรมชาติและต้นไม้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถกล่อมเกลาจิตใจให้คนมีความสุขความสงบได้อย่างไม่น่าเป็นไปไม่ได้"


เริ่มจากงานอดิเรก
เมื่อใดมีเวลาว่างจากงานจะมาดูแลตกแต่งต้นไม้อย่างบอนไซ ที่ตัวเองได้ปลูกเลี้ยงไว้เป็นจำนวนมากกว่า 1,000 ต้น จากการผลิตขึ้นมาจากมือเองโดยใช้เวลาเป็นแรมปี การเลี้ยงส่วนใหญ่เป็นไม้ที่เพาะจากเมล็ดตั้งแต่ต้นยังอยู่ในวัยละอ่อน เริ่มกันมาตั้งแต่เกิดเลย หรือบางต้นอาจมากกว่าหรือเป็นสิบๆ ปี

ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ที่มีอยู่ทั่วไปในท้องถิ่นอย่างเช่น ตะโก ข่อย โพธิ์ มะสัง สำหรับมะสังและโพธิ์ต้องเป็นโพธิ์อินเดียเท่านั้น เพราะสามารถย่อใบลงมีความสวยงาม ข้อแต่ละข้อสั้น โพธิ์อินเดียเป็นต้นโพธิ์ที่มีลำต้นขาว ใบไม่มีหาง ยางมีสีเขียวเข้ม เหมาะแก่การทำบอนไซ

แต่ก่อนอื่นต้องมาพูดเรื่องบอนไซในอุดมคติว่า บอนไซ คืออะไร สำหรับคุณเสถียรบอนไซคือการย่อต้นไม้ที่มีชีวิตให้เล็กลงและคงความสวยงามให้คงอยู่อย่างเดิม เมื่อมองแล้วรู้สึกว่าเป็นต้นไม้ใหญ่ ที่สามารถไปอาศัยร่มเงาได้ นี่เป็นความเชื่อของตน แต่ใครจะมองอย่างอื่น เชื่ออย่างอื่นก็ต้องแล้วแต่ เพราะถือว่าไม่มีหลักเกณฑ์ที่ตายตัวอะไร


เริ่มรู้จักบอนไซจากที่ไหน
เริ่มรู้จักบอนไซเป็นครั้งแรกจากการดูหนังสือและเห็นรูปภาพต้นบอนไซ ทำให้เกิดความชอบพยายามศึกษาจากตำรับตำรามากมาย แต่ได้เพียงจำมา ดูมา เพราะหนังสือบอนไซแต่ละเล่มแพงเสียเหลือเกิน ราคาหลักพันทั้งนั้น โดยเฉพาะหนังสือที่มีภาพสีก็ราคาแพงลิบลิ่วจนไม่กล้าเป็นเจ้าของ ทำไงได้คนทุนน้อยแต่ใจรักหันมาลองปลูกบอนไซบ้าง ซึ่งเริ่มต้นปลูกเลี้ยงบอนไซจากต้นเล็กเฝ้าดูเขาเติบโตตั้งแต่เมล็ดมาจนถึงทุกวันนี้เป็นเวลากว่า 30 ปี ต้นไม้ต้องจัดเขาตั้งแต่เล็กจะจัดการง่าย หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก อันนี้เป็นเรื่องจริงที่ตนต้องขอยืนยัน นอนยัน นั่งยัน จากการทำเองสร้างต้นไม้เองพยายามหาเทคนิค การจัดรากให้เหมือนไม้ใหญ่ รากไม่พอเพิ่มได้ด้วยการเสริมราก แต่ต้องทำกันตั้งแต่ต้นไม้ยังเล็ก ซึ่งเมื่อต้นไม้โตขึ้นจะได้กลืนแผลไปโดยปริยาย อย่างต้นโพธิ์ ต้นไทร ทำได้



เทคนิคการทำรากอากาศต้นไทร

พืชตระ***ลไทรทำได้หมด ใครอยากได้รากอากาศก็สามารถทำได้โดยการนำต้นไทรที่แต่งสมบูรณ์แล้วไม้จบแล้วมาใช้ถาดรองน้ำไว้ประมาณ 2-3 เซนติเมตร นำกระถางที่มีต้นไทรใส่ลงไป ใช้สุ่มไก่ลูกกำลังเหมาะครอบใช้กระสอบป่านชุบน้ำคลุมทับสุ่มอีกชั้น คอยพรมน้ำให้ชุ่มตลอดเท่านี้ประมาณ 1 เดือน รากอากาศก็เริ่มออกมาดูโลกแล้ว เมื่อรากอากาศออกมาจึงใช้หลอดกาแฟใส่รากแล้วนำมาลงในกระถางตามจุดที่เราต้องการ จากนั้นนำออกมาเลี้ยงตามปกติ เท่านี้ก็สามารถเพิ่มความสวยสดงดงาม แต่เมื่อรากมีความโตพอสมควรก็ผ่าเอาหลอดออกมาได้ นี่เป็นการเพิ่มมูลค่าพืชตระ***ลไทรได้ตามแบบของตัวเอง เป็นเทคนิคที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน แต่ใครจะลองไปทำอันนี้ก็ไม่ว่ากัน เพราะเรื่องเหล่านี้ต้องใช้ทั้งเวลาและประสบการณ์ ที่สำคัญที่สุดเกือบลืมบอกว่าต้องทำในที่ร่มเท่านั้น กลางแจ้งเสียชีวิตหมด เคยมาแล้ว ลองมาแล้ว ตายไปหลายแล้ว จึงอยากเตือนก่อน เพราะไม้เหล่านี้ใช้เวลาสร้างนาน แต่ละต้นจึงควรถนอมเป็นอย่างดีสำหรับผู้ครอบครอง



การตอนต้นไม้แบบฉบับเฉพาะตัว

การตอนต้นไม้ก็น่าจะเหมือนๆ กันทั้งนั้น แต่ที่นี่มีการตอนที่แปลกแหวกแนวคือ การตอนแบบควั่นเป็นรูปฟันเลื่อยรอบๆ กิ่งควั่น เป็นเทคนิคเฉพาะตัวที่ว่าสามารถให้รากไม้ออกไปทางทิศใดก็ได้ แล้วแต่เรากำหนด ถ้าต้องการแถบเดียวก็ควั่นกันทางเดียว ต้องการรอบก็ควั่นรอบๆ อันนี้ลองทำมาแล้วสำเร็จมาแล้ว ใช้กับพืชตระ***ลโพธิ์ไทร ล่าสุดได้ลองทำกับต้นมะสังก็ได้ผลประทับใจ

มะสัง ตอนได้ออกรากดี ตัดแล้วไม่ตาย ใครไม่เชื่อก็ลอง แต่ต้องใช้เวลามากหน่อยกว่าจะตัดได้ ทุกกิ่งที่ตอนก่อนตัดต้องควั่นเสียก่อน เพื่อให้ต้นไม้เหล่านั้นรู้ตัวก่อนที่จะตัดลงมาชำ ใครจะรู้ว่ามะสังทำเงินได้ ไม้พื้นบ้านแต่กลับมีคนต้องการมากจนผลิตกันไม่ทัน เพราะมะสังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ ตะคละขึ้น เป็นคำของเซียนบอนไซอย่างเราคือ เป็นปุ่มเป็นโปที่โคน แสดงถึงอายุความเก่าแก่นี้เป็นการสร้างอารมณ์ให้นักเล่นไม้บอนไซเป็นอย่างดี



ทำไม ไม่ไปขุดต้นไม้ตามป่าธรรมชาติ

ไม้บางคนชอบขุดจากป่าธรรมชาติ แต่เรากลับมองตรงกันข้าม อยากจะปลูกกันเองเสียมากกว่า เพราะเราเหมือนกับเลี้ยงเด็ก เราสามารถหัดเขาได้ตั้งแต่เยาว์วัย สมัยก่อนเคยขุด การขุดเป็นเรื่องของการเสี่ยงโชค ซึ่งตนไม่ชอบเสี่ยง เพราะวันหนึ่งเดินไปหาเสียเวลาไปหากันเป็นวัน บางทีได้มา 1-2 ต้น ไม่คุ้มกับการเสียเวลา หลายคนคิดเพียงแค่การขุดไม่ปลูกไม่สร้างก็มีแต่หมดไปๆ แล้วใครจะปลูกจะสร้างเท่ากับสนับสนุนให้มีการทำลายต้นไม้ธรรมชาติ เราต้องมาปลูกสร้างสวนกระแส เท่านี้การทำบอนไซก็เป็นเรื่องของความตั้งใจและอดทน อดทนแล้วก็ต้องอดทน ต้นอะไรต้นไม้ใดมีอยู่ใกล้บ้านทำได้หมด ตนโชคดีที่เป็นคนดอนเจดีย์เป็นแหล่งของมะสังจึงหาเมล็ดง่าย จึงเพาะต้นมะสังไว้มากโขทีเดียว

ต้องเลือกมะสังที่แก่จัดสุกมาทุบเอาเมล็ด แต่เรากินเนื้อด้วยเพื่อไม่ให้ขาดดุล เพราะเนื้อมะสังก็มีรสชาติเหมือนมะขวิด แต่จะเปรี้ยวกว่า ผลเล็กกว่าเท่านั้น เมื่อกินเนื้อหมด จัดการนำเมล็ดที่ได้มาผึ่งให้แห้งด้วยแสงแดดอ่อนๆ ตากประมาณ 1 แดด หรือ 2 ก็ตามใจ แต่ที่จำง่ายก็คือมะสังแดดเดียว นำไปเพาะในดินผสมขี้เถ้ารดน้ำให้ชุ่ม ทิ้งเวลาผ่านไปไม่ถึงเดือนจะได้มะสังต้นสูงชะลูดออกมา แล้วนำไปปลูกเลี้ยงตามวัสดุที่มี ที่บ้านใช้ปลูกลงดินเพราะเร็วกว่า แต่ต้องเสียเวลาในการขุดอีกรอบ ถ้าขุดไม่เป็นหรือวัสดุปลูกมากก็จัดการปลูกลงกระถางดีกว่า เพราะจัดการง่ายกว่า ที่บ้านทุกตารางนิ้วใช้ปลูกหมดตามพื้นที่ว่างข้างบ้านบ้าง ในสวนบ้าง ขณะนี้นับได้ก็น่าจะกว่า 1,000 ต้น เห็นจะได้ นี่ยังไม่รวมต้นเล็ก



การทำไม้บอนไซ

ต้องมาเริ่มกันตั้งแต่ที่รากก่อน เมื่อได้รากมาที่ลำต้น จากนั้นมาดูที่กิ่งโดยการตั้งกิ่ง 1 2 3 กิ่งที่ 1 คือยอด กิ่งที่ 2 และ 3 คือ กิ่งด้านข้างที่ออกไปคนละด้านเมื่อได้แล้วก็ตามมาด้วยกิ่ง 3 และ 4 เมื่อได้แล้วก็มาถึงการแต่งพุ่ม ต้องเป็นสามเหลี่ยมเท่านั้น อย่าให้เป็นมนเหมือนลูกซาลาเปาไม่เอา การเลี้ยงไม้ทุกชนิดที่เป็นบอนไซ ต้องมีการเปลี่ยนดินประจำปี เปลี่ยนกระถางให้เหมาะสม วางไว้ในที่มีแสงแดด ย่อใบหรือต้องการใบใหม่ต้องเด็ดใบทั้งหมดออก หมั่นสังเกตดูแลการเข้าทำลายของศัตรูธรรมชาติ เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหาย ขณะนี้มีพันธุ์ไม้บอนไซนานาชนิด เช่น ไกร ตะโก ไทร ข่อย หมากเล็กหมากน้อย มะสัง และมะเกลือ ใครชอบต้นไม้อะไรก็สามารถปลูกเป็นบอนไซได้ทั้งนั้น ไม่มีข้อแม้ การปลูกเลี้ยงบอนไซสามารถให้อะไรเราได้หลากหลายอย่าง เช่น สมาธิ การวางแผน การรอคอย ความอดทน ที่สำคัญที่สุดคือ ความสุขที่ได้จากการดูแลต้นไม้ ทำแล้วไปขายที่ไหน ตลาดรองรับมีมากน้อยเพียงไร ตลาดเรามีอยู่ที่ราชบุรี เพชรบุรี กรุงเทพฯ และนครปฐม ส่วนใหญ่ไม่ต้องไปจำหน่ายที่ไหน ขายที่ไหน อยู่กับบ้านอย่างนี้ก็ขายได้ ของดียังไงมันก็ดี การประชาสัมพันธ์ก็เป็นแค่เพียงปากต่อปากเท่านั้น กลุ่มคนเล่นคนซื้อก็มีอยู่ไม่มาก ส่วนใหญ่รู้จักกันหมดในวงการ ทุกวันนี้ทำไม่ทันขาย ต้นไม้ไร้ค่าอย่างนี้ที่ทุกคนมอง เมื่อผ่านขั้นตอนกระบวนการไปแล้วสามารถสร้างมูลค่าเป็นหมื่นเป็นแสนเลยทีเดียว ต้นไม้ต่างๆ เราจะตั้งราคาจากระยะเวลาการเลี้ยงการฟูมฟักและราคาก็ไม่ตายตัว แต่ไม่มีลงมีแต่ขึ้นแบบน้ำมันนั้นล่ะ

ใครคิดจะปลูกบอนไซต้องมีใจรักบอนไซเสียก่อน รู้จักพื้นฐานบอนไซเสียก่อน เนื่องจากบางคนปลูกตามกระแสความนิยม เมื่อหมดกระแสก็เลิกรา ต้นไม้ตายเสียหายหมด ที่สำคัญต้องดูแลต้นไม้ต้นเล็กๆ จนโต ต้องให้ความดูแลเอาใจใส่อย่างมาก ดูแลวางแผนอย่างลงตัวจึงได้ไม้สำเร็จกันสักต้น ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ทางวิชาการเพื่อปลูกบอนไซได้ถูกต้องตามหลักสากล สามารถมองหน้าของต้นไม้ออกเพื่อเลือกมุมที่สวยงาม ควรหมั่นศึกษาผู้ปลูกเลี้ยงบอนไซเพื่อเทคนิคการปลูกเลี้ยงที่ดีเพื่อประโยชน์ต่อการเลี้ยงต้นไม้ของเราเอง เพราะแต่ละคนมีพื้นฐานการเลี้ยงบอนไซที่เหมือนกัน แต่มีมุมมองและเทคนิคที่ต่างกัน หากใครต้องซื้อต้นไม้มาเลี้ยงควรเลือกซื้อต้นไม้ที่มีราคาถูกมาหัดเลี้ยง ไม่ควรซื้อต้นไม้ที่มีราคาแพงหรือสำเร็จแล้ว เพราะจะทำให้เราไม่ได้ความรู้เลยว่า บอนไซเขาทำอย่างไร เลี้ยงอย่างไร ได้เพียงใช้สายยางฉีดนำประคองชีวิตเขาเท่านั้น ส่วนไม้ที่ยังไม่สวยไม่ได้ฟอร์ม ก็ให้ปลูกลงดินก่อนให้สวยก่อน แล้วจึงขุดนำมาปลูกในกระถาง หากเราให้ความรักการดูแลที่ดีต่อต้นไม้ ต้นไม้ก็จะตอบแทนเราด้วยความสวยงามอาจมีคุณค่ามากกว่าเงินก็เป็นได้ หากท่านใดสนใจเรื่องบอนไซและอยากเรียนรู้เรื่องบอนไซก็สามารถสอบถามแลกเปลี่ยนความรู้กันได้ พร้อมจะให้ความรู้และเทคนิคใน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น