วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ข้อเขียนน่าสนใจของนักเล่นไม้บอนไซรุ่นลายคราม ตอนที่ 2

  มีต้นไม้หลายชนิดที่ชอบแตกกอ คือมีลำต้นแผ่ขยายโผล่ขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ เช่น ไฮเดรนเยีย โรโค เดนดรอน ต้นไผ่ ทับทิม เป็นต้น เมื่อลำต้นใหม่แข็งแรงดีแล้วก็ย่อมแยกออกเป็นหลายต้นไม้ การแยกก็ดูรู้ว่าเป็นต้นไม้เล็กหรือใหญ่และรากแน่นเพียงใด ถ้าเป็นไม้เล็กก็อาจใช้มีดคมๆ ตัดลงไปให้ตรงแล้วค่อยแซะขึ้นมาจากดินก็ได้ ถ้าเป็นต้นไม้ที่ปลูกไว้นานจนรากแน่นกระถาง อาจต้องเอาออกจากกระถางแล้วค่อยๆ ขลิบรากออกจนกระทั่งตัดต้นออกแยกจากกระถางได้ จนรากแตกดีแล้วจึงลงกระถางบอนไซ การแยกนี้ความยากง่ายอยู่ที่ลักษณะของต้นไม้ด้วย ต้นไผ่เหลืองของสิงคโปร์ลำต้นตรงงาม แต่เปลือกบาง แยกต้นมักจะตายเสมอ จึงต้องเปลี่ยนวิธีตอนเอาตามตาที่อยู่ระหว่างลำ การตอนไผ่ไม่ต้องทำอะไรมากเพียงแต่ใช้มอสหุ้มและห่อด้วยแผ่นพลาสติกรดน้ำสัก 1 เดือนก็ออกรากแยกไปปลูกได้แล้ว การใช้วิธีตอนนี้มีข้อเสียที่ได้ต้นไผ่เล็ก จะต้องใช้เวลาอีก 3-4 ปี ลำต้นจึงใหญ่เท่าขนาดเดิม  มีไม้บางชนิดที่ออกต้นตามรากได้ หรือที่เราเรียกว่าไหล เช่น ต้นแคแสด ต้นปีบ สาเก มักเห็นต้นเล็กงอขึ้นตามโคนต้นอยู่เสมอ ค่อยๆ เฉือนรากที่ไปสู่ รากใหญ่สักครึ่งหนึ่งและหาเศษกระเบื้องยัดทิ้งไว้ รากตรงโคนไหลจะออกมากขึ้นจนแข็งแรงดีแล้วก็ขุดแยกไปปลูกได้
 7.การล่าพันธุ์ไม้
                  การล่าพันธุ์เป็นวิธีที่สนุกและให้ความสำราญแก่นักเล่นต้นไม้มากที่สุด ถ้าผู้นั้นได้กระทำในขอบเขต และใช้เสรีให้อยู่ในวงจำกัดตามกฎหมาย เพราะการหาสัตว์ป่าก็ดี หาไม้ป่าก็ดี มีกฎหมายรองรับแดนกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่ดิน จึงจำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของก่อนมิฉะนั้นจะเกิดการละเมิดกฎหมายอาญาขึ้น สำหรับบ้านเมืองของเราคนไทยเป็นคนใจกว้าง เข้าใจเหตุผลและมีเมตตาผมเคยไปขุดตะโกที่ท้องนาในเขตชลบุรีมาที่หนึ่ง ลำต้นผ่าศูนย์กลางราว 10นิ้ว สูงกว่า4เมตร เข้าไปขอเจ้าของนาก่อน คำตอบคำแรกที่น่าชื่นใจก็คือ เอาไปเถอะไม่รู้จะเอาไว้ทำอะไร หุงข้าวก็จุดไฟไม่ติด เอาไฟเผาหลายหนแล้วก็ไม่ตาย รถจอดอยู่ห่างจากตะโกกว่า5เส้น เมื่อขุดแล้วก็หนักใจว่าจะเอาไปขึ้นรถได้อย่างไร เพราะทั้งดินที่ติดต้นและตะโกนั้นต้องใช้คนหามถึง8คน ยังไม่ทันจะออกปากก็ได้ยินเสียงของลุงเจ้าของตะโกตะโกนเรียกลูกชายให้เอาจอบมาฟันคันนา4-5อัน เพื่อให้รถถอยเข้ามาได้ ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง  นี่แหละคิดจิตใจอันสูงส่งของคนไทยที่คนชาวกรุงเรียกว่า ชาวนาหรือบ้านนอก วันนั้นเป็นอันได้ว่าอิ่มใจในน้ำใจของชาวนามากกว่าการได้ตะโกต้นใหญ่  อีกครั้งหนึ่งไปหาต้นมะสังที่จังหวัด ปราจีนบุรี ต้องเอารถอ้อมเข้าไปหลังเขาอีโต้ หนทางไม่สะดวกนักเพราะเป็นทางลูกรังและดินเป็นตอนๆ เจ้าของถิ่นทำนา บ้างปลูกไผ่ตงบ้าง ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย พบเจ้าของไร่รายแรก ก็ขุดต้นเล็กๆ มาจนพอใจแล้วเดินทางกลับ เห็นต้นมะสังต้นใหญ่รูปร่างเป็นอย่างไร คนแถบนั้นเค้าเรียกว่ากะสังไม่ใช่มะสัง แวะเข้าไปบ้าน ที่มีต้นนั้นอยู่ พบลูกสามคนเฝ้าบ้านบอกว่าพ่อแม่ไปทำนาห่างสัก 1 กิโลเมตร จึงขอให้เด็กไปตามมาเพื่อจะขอ เมื่อเด็กไปแล้วมาคิดดูว่าถ้ารอเจ้าของมาเสียก่อนแล้วจึงขุดคงจะหิวแย่ จึงตัดสินใจลงมือขุด ถ้ามีอะไรเป็นที่ขัดใจก็เอาไว้แก้ไขกันภายหลัง ขุดอยู่เกือบชั่วโมง สองผัวเมียก็มาถึง บอกเขาว่าขอโทษที่ขุดก่อนตั้งใจมาขอ เขาก็หัวเราะแล้วบอกว่าเอาไปเถอะ เป็นต้นไม้ขึ้นเองแถวนี้ถมเถไป น้ำใจของชาวนาเราเป็นเช่นนี้แหละ
                    การเที่ยวขุดต้นไม้ในที่ดินของเอกชนนี้ ผมถือหลักเรื่องการเคารพในกรรมสิทธิ์มาก และวางหลักไว้ว่า เมื่อใครมีน้ำใจดีเราก็ต้องกตัญญู มีอะไรตอบแทนเขาบ้างผมระวังมากเรื่องการเงิน เพราะบางรายเขาตั้งใจดีจริงๆและไม่ต้องการเรียกราคาเป็นผลตอบแทน จึงเตรียมของไว้สำหรับให้เขา เช่น ผ้าเช็ดตัว ไฟแช้ก สุรา น้ำตาล รู้สึกว่าการให้ของตอบแทนเช่นนี้ผู้รับพอใจเพราะแสดงความเป็นกันเองไม่ใช่ในลักษณะ ซื้อขายเป็นการค้า ข้อนี้เป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของไทยเรา ญี่ปุ่นเขาเล่นบอนไซมากว่า800ปี ฉะนั้นต้นไม้งามๆ ที่มีลักษณะทำบอนไซได้ตามป่าตามภูเขาก็ถูกล่ากันมาเกือบทั้งหมดสิ้น ที่เหลืออยู่ก็เป็นเขตป่าสงวน ซึ่งกฎหมายหวงห้าม แต่ในเมืองเรายังมีต้นไม้อีกมากมาย ทั้งตามสองฝั่งข้างทางตามท้องนา ในป่า บนเขา และตามเกาะ ที่อยู่นอกเขตป่าสงวนอันพอจะหาได้ อย่างไรก็ดี ในระยะ10ปีมานี้ก็มีผู้หาไม้ป่ามาขายที่ตลาดนัดอยู่ทุกสัปดาห์ จึงคิดว่า ถ้าหากได้มีการทำความเข้าใจกันในเรื่องนี้ กำหนดระเบียบวินัยไว้บ้างก็อาจป้องกันการสูญพันธุ์ของไม้บางชนิด มิฉะนั้นเหตุการณ์จะคล้ายกับเรื่องเนื้อสมันตัวสุดท้ายของเราซึ่งถูกยิงตายที่จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อ พ.ศ.2474 และไม่อาจหาเนื้อสมันดูได้ที่ไหนอีกแล้ว ไม่ว่าเพื่อเป็นอาชีพหรืองานอดิเรกก็ตาม ถ้าเป็นต้นไม้ชนิดใดชนิดหนึ่ง เช่น มะสัง ตะโก ขึ้นเป็นหมู่อยู่ ก็ขอได้โปรดเหลือต้นใหญ่ๆ ไว้ เพื่อให้มันออกลูกหล่นมางอกเป็นต้นใหม่ได้ต่อไป ก็ว่าจะเป็นทางสืบพันธุ์ไปได้เรื่อยๆ
                       การได้พันธุ์ไม้จากการล่านี้ นับว่าเป็นวิธีที่ดีกว่าทั้ง 6 วิธีกล่าวมาแล้วข้างต้น เพราะเป็นงานที่ยากกว่าถ้าคนที่ไม่ชอบจริงๆ และไม่มีคนช่วยเหลือแล้วก็ยากที่จะทำได้ สรุปว่าต้องถึงทั้งใจและถึงทั้งคน จะทำคนเดียวไม่มีทางสำเร็จแน่ ใคร่ขอสรุปเหตุผลว่าการล่าพันธุ์ไม้เป็นวิธีที่ดีนั้น ดังต่อไปนี้
                       การเข้าป่าล่าพันธุ์ไม้เป็นการที่ต้องไปต่างถิ่น หรือจะเรียกแผลงตามอย่างภาษาเขมรก็เรียกว่า เทศจร ไปให้พ้นจากชุมชน และจากภาวะสิ่งแวดล้อมอันเราต้องได้รับและทนทุกข์อยู่ในเมือง คืออากาศเสียจากรถยนต์ ควันดำซึ่งมีกฎหมายห้ามไว้ชัดแต่มิได้งัดเอาออกมาใช้ ไปให้พ้นจากกลิ่นน้ำเน่าในคลองซึ่งรับน้ำโสโครกจากท่อข้างถนนของเทศบาล พ้นจากเสียงแตรรถยนต์เสียงโทรศัพท์ จิตใจก็เกิดความสงบและเบิกบาน แม้อาหารที่เตรียมไปรับประทานจะอยู่ในขั้นเพียงข้าวห่อก็ดูเอร็ดอร่อยมาก
                     นอกจากนั้นยังได้ประโยชน์ทางทัศนาจร กล่าวคือ ได้เห็นพันธุ์ไม้แปลกๆ ที่ไม่เคยเห็น เห็นกล้วยไม้ที่เกาะอยู่ตามต้นไม้ออกดอกให้ชมตามธรรมชาติ ต้นเทียนขโมยที่เคยซื้อจากตลาดนัดก็ไม่เป็นภัยต่อสังคม แม้นกชนิดต่างๆก็บินและเกาะให้ดูนกบางชนิดก็ร้องได้เพราะกังวาล เช่น นกโพรดก นกเขา นกกระแตแต้แว้ด นกดุเหว่า เสียงเหล่านี้ย่อมให้ฟังได้ยากถ้าอยู่ในเมือง แม้ในสวนสัตว์
                      ในป่าโปร่งย่อมได้รับทั้งอากาศบริสุทธิ์และแสงแดด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย บางโอกาสจะได้กลิ่นไม้ป่าหอมชื่นใจเช่นพวกมะลิป่า แก้ว คัดเค้า ปีป การะเวก เป็นธรรมชาติที่มหัศจรรย์และนับวันจะหมดไป เพราะมนุษย์เพิ่มมากขึ้นก็ต้องเผ่าไร่ทำลายป่านั้นเพื่อประกอบอาชีพ
                       การเข้าป่าหาต้นไม้นั้น ทำให้ต้องเดินจนลืมว่าได้เดินในระยะทางไกลเพียงใด เพราะจะได้พบแต่ธรรมชาติอันงดงามลืมความเหนื่อย เหงื่อออกโชก เมื่อกลับมาแล้วจึงจะทราบว่าได้ออกกำลังไปอย่างมากโดยไม่รู้ตัว    ได้มีการผจญภัยอย่างแปลกๆ ซึ่งเมื่อพ้นมาได้แล้วก็กลับเป็นของสนุกภูมิใจ พรรคพวกที่เคยไปด้วยพยายามหาต้นตะโกตามโคก แต่เกิดไปยืนอยู่บนหลังงูเหลือมตัวใหญ่ ซึ่งนึกว่าท่อนไม้ ครั้งงูตกใจก็พยายามกระโดดให้สูงแต่ผลกลับมาลงบนหลังงูอีก บางคราวก็ปืนไปหาพันธุ์ไม้แต่กลับถูกแตนต่อยจนปากบวมเจ่อ ถึงกับรับประทานข้าวไม่ได้ เรื่องเหล่านี้เมื่อกลับมาบ้านก็จะกลายเป็นเรื่องสนุกที่จะบรรยายและหัวเรากันไปได้อีกนาน ครั้งหนึ่งไปหาต้นไม้กันที่เกาะริ้นในอ่าวพัทยาโดยเรือหาปลา ยกอาหารกลางวันไปกินกันใต้ต้นไม้ชายเกาะ ต้องใช้มีดถางทางเข้าไปจนได้ชัยภูมิดี อาหารมื้อนั้นแม่จะมีเพียงผัดพริกขิง ไข่พะโล้ และน้ำพริกมะขามกับปลาเค็ม ก็ดูมีรสชาติกว่าอาหารตามเหลาหรือโรงแรมเป็นไหนๆแต่ก็มีเรื่องตื่นเต้นผสมอยู่บ้างตามเคย ขั้นแรกก็ต้องผจญภัยกับมดตะนอยที่เข้ามาต่อยเวลารับประทานอาหาร มดชนิดนี้ต่อยแล้วได้รสดีกว่ามดแดง ซึ่งถูกกัดกันจนชินเสียแล้วคือทั้งเจ็บทั้งคัน และความรู้สึกทรงอยู่ได้นาน เป็นการเตือนความจำมิให้ลืมสถานที่อันแสนรำคาญนี้ เห็นต้นปรงอยู่บนเขามีอยู่ต้นหนึ่ง ทั้งสูงใหญ่แต่อยู่บนขอบผาพอดี ต้องปืนอ้อมไปทางด้านหลังซึ้งเป็นทางลาด พอขุดเสร็จพรรคพวกคนหนึ่งเกิดพลาดลื่นลงไปทางหน้าผา เกาะต้นไม้ไว้ได้แต่ไม่สามารถดึงตัวเองกลับมาได้ เพราะแรงหมดจากการขุดเสียมากแล้ว ต้องช่วยกันฉุดลากกันทุลักทุเลจึงรอดมาได้และไม่เคยกลับไปที่นั้นอีกเลย
                        ครั้งหนึ่งไปหาขุดต้นตะโกตามริมทางใกล้จังหวัดนครราชสีมา การจดรถไว้ริมถนนต้องใส่กุญแจให้เรียบร้อยเพาะการทิ้งรถไว้นานๆอาจทำให้มีผู้สนใจยืมไปใช้ กุญแจใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ เมื่อได้ต้นไม้เรียบร้อยแล้วจะกลับมาขึ้นรถ หากุญแจไม่ได้แม้ในขณะนั้นจะมีลมพัดโชยอยู่อย่างสบายแต่มันเหงื่อมันออกมาเองจนท่วมตัว คิดไม่ออกว่ารถจอดอยู่กลางดง เมื่อไม่มีกุญแจก็เหมือนไม้ท่อน จะกลับได้อย่างไรตกลงใจไปขุดคุ้ยดินในบริเวณนั้น มีเด็กๆ หลายคนมาหาหน่อไม้ เรียกให้มาช่วย เด็กกลับวิ่งหนี เด็กพวกนั้นเป็นหญิง ก็น่าเห็นใจเขาคงคิดว่าพวกเราคงจะชวนเล่นยี่อิดจะโกรธก็โกรธไม่ลง คุ้ยหาอยู่เป็นเวลานานก็พบ ตั้งแต่นั้นก็ถือมั่นในหลักการว่าต้องรักษากุญแจรถอย่างชีวิต
                          การเที่ยวหาต้นไม้ได้พยายามไปเกือบทุกภาคมาแล้ว แต่ละภาคก็มีต้นไม้แตกต่างกัน แล้วแต่ดินฟ้าอากาศ สังเกต ได้ว่าทางภาคใต้ไม่สู้มีไม้ที่จะเหมาะแก่การทำบอนไซนัก เพราะอุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำ ต้นไม้งามเกินไปเว้นแต่ที่อยู่บนเขา ไม้บอนไซที่หาได้ง่ายมักอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพาะเป็นที่แห้งแล้ง ไม้ไม่เจริญทำให้ลำต้นหงิกงอและมีรูปทรงดี เคยเห็นตะโกหมู่หนึ่งตอนจวนจะถึงชุมแพในเขตขอนแก่น ขึ้นอยู่บนโคก กิ่งก้านหงิกงอและแผ่ออกเหมือนมีคนดัดไว้ให้ เป็นตะโกที่น่าดูกว่าที่เห็นใกล้ๆบริเวณนครราชสีมาหรือที่ชลบุรี แต่ระยะทางห่างกรุงเทพกว่า 700 กิโลเมตร เห็นมีผู้ขุดมาขายที่ตลาดนัด น่าเห็นใจที่ต้องใช้ความพยายามมาก ฉะนั้น แม้เขาจะเรียกราคากันสูงบ้างก็น่าสนับสนุน ต้นมะสังมีมากมายทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งต้นเล็กและใหญ่ ต้นเล็กจะเลือกรูปทรงอย่างไรก็ได้ เห็นหลายแห่งมีรอยคนขุดไปแล้ว เข้าใจว่าคงเอามาขายที่กรุงเทพ สำหรับต้นกระทุ่มมีมากมายตามท้องนา นาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือผิดกับภาคกลางที่เขาเว้นต้นไม้ใหญ่ๆไว้ต้นตะโกจะเอาขนาดไหนก็ได้
                           การหาต้นไม้ตามป่าสมัยก่อน เป็นการเที่ยวด้วยความสบายใจ ไม่ต้องระวังตัวนัก เพราะไม่มีผู้ก่อการร้ายหรือพวกผู้ร้ายเท่าไหร่ เท่าที่ผ่านมาเดชะบุญที่พระคุ้มครองอยู่ จึงไม่เคยประสบเคราะห์กรรมจากพวกผู้ร้ายเหล่านี้ มีแต่พบคนดีๆชาวท้องถิ่นบางคนก็เข้ามาช่วยเสียอีก การพกอาวุธปืนไปด้วยก็ไม่สะดวกนักเพราะถ้าตำรวจพบเข้าก็จะกลายเป็นจำเลยและแม้จะมีไปเราก็ไม่มีอาชีพทางด้านยิงปืนคงชักออกมาใช้ไม่ทันผู้ร้ายแน่ จึงได้แต่อาราธนาพระเครื่องแขวนคอไปกับเครื่องมือในการขุด นอกจากนั้นยังมีไม้เท้าที่ซื้อจากแอฟริกา อย่างไรก็ดีอะไรก็คงไม่สู้พระรอด คืออย่าให้พบกันเลยดีกว่า เคยได้เชื้อไข้จับสั่นจากภาคใต้มาคราวหนึ่ง ต่อไปก็ระวังตัวด้วยอาศัยยาป้องกัน การเที่ยวหาต้นไม้นี้มีเรื่องคุยกันได้ไม่รู้จบเคยไปถึงเมืองเลย ได้เห็นทิวทัศน์อันงดงาม เห็นผานกเค้าและต้นไม้ใหญ่ๆ น่าเสียดายที่ดงลานกำลังจะหมดไปเพราะถูกตัดทิ้งเสียมาก แต่ก็ได้ประโยชน์จากตอลานที่ยังเหลืออยู่ เพราะมีต้นไทรชนิดต่างๆ ไปเกาะ เช่นชนิดใบใหญ่ ใบยาว และใบนิ่ม บางอย่างก็เหมือนกับที่ได้มาจากเพชรบุรีและปราณบุรี
                         เมื่อการหาต้นไม้ได้ประโยชน์ทั้งการเที่ยวสนุกและได้ต้นไม้ด้วยเช่นนี้ ต้นไม้ทุกต้นจึงมีประวัติว่าได้มาจากไหนเวลาเอามาลำบากอย่างไร ต้องปีนป่ายเอามาง่าย ทำให้ช่วยจำและสามารถชี้ต้นที่เอามาปลูกได้ทุกต้นว่าเป็นต้นอะไรมีประวัติอย่างไร
                          การเข้าป่าล่าต้นไม้เป็นงานที่สิ้นเปลืองน้อยกว่าจะซื้อจากผู้นำมาขาย ค่าใช้จ่ายก็มีแต่น้ำมันรถและอาหารระหว่างทาง แต่สามารถได้ปริมาณมากเท่าที่ต้องการจึงเป็นการเล่นที่ประหยัด นอกจากนั้นยังสามารถเลือกต้นไม้ตามรูปลักษณะที่เราพอใจได้ การเที่ยวซื้อเขาจะจำกัดอยู่เพียงที่เขานำมาขายเท่านั้น
                           ประโยชน์ของการล่าต้นไม้ยังมีอีกก็คือ เป็นวิธีลัดในเรื่องอายุ เพราะต้นไม้ที่ได้มานั้น มีชีวิตอยู่ในป่าแล้วนานปีเมื่อมาทำบอนไซ ก็กลายเป็นต้นไม้มีอายุมากไปทันที ความสำคัญอีกข้อหนึ่งก็คือ เมื่อเราเข้าไปในป่า เราได้มีโอกาสสังเกตรูปพรรณสัณฐาน ว่ากิ่งก้านสาขารูปร่างเป็นอย่างไร เมื่อเอาต้นเล็กมาก็จะช่วยตกแต่งรูปร่างให้เหมือนต้นจริงได้ มีข้อควรระลึกอยู่เสมอว่าเมื่อเข้าไปในป่าแล้วอย่าเพิ่งดีใจและเกิดความโลภ ควรระงับยับยั้งชั่งใจไว้ไม่ใช่ไปเห็นต้นไหนก็ขุดมาเลย ควรใช้เวลาตรวจเลือกเอาแต่เฉพาะต้นที่ดีมีรูปงามจริงๆ มิฉะนั้นจะเสียแรงเปล่าและจะไม่มีที่สำหรับบรรทุกกลับมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น